✨👇✨ กดรับ Link นิยายรสแซ่บได้ที่ปกทุกปกที่นี่เลยจ้าา ✨👇✨

* ✨👇✨ กดรับ Link นิยายรสแซ่บได้ที่ปกทุกปกที่นี่เลยจ้าา ✨👇✨ *

niyayZAP Related E-Books Related E-Books Related E-Books Related E-Books Series E-Books niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน niyayZAP Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP Related E-Books niyayZAP niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books  Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books

วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2568

เพลิงปรารถนา ณ ป่าต้องห้าม | เซนเทอร์ (Centaur)

เพลิงปรารถนา ณ ป่าต้องห้าม | เซไทร์

เพลิงปรารถนา ณ ป่าต้องห้าม

อโฟร์ไดท x เซนเทอร์

ตำนานรักบทใหม่ของ: อโฟรไดท์และคู่รักของเธอ

ลักษณะนิสัยของเทพี:
อโฟรไดท์ (Aphrodite) ตามตำนานกรีก

เทพีอโฟรไดท์เป็นเทพีแห่งความรัก ความงาม และกามารมณ์ ตามตำนานเธอมีบุคลิกที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับมุมมองของตำนานแต่ละยุคสมัย แต่โดยทั่วไป เธอมีลัษณะนิสัยดังนี้:

เย้ายวนและเปี่ยมเสน่ห์ – อโฟรไดท์เป็นจุดศูนย์กลางของความงามและแรงดึงดูด เธอสามารถทำให้มนุษย์และเทพตกหลุมรักได้เพียงแค่ปรากฏตัว หรือเพียงแค่ปรายตามอง

หลงใหลในความรักและความปรารถนา – เธอเป็นเทพีที่เชื่อในพลังของความรัก ไม่ใช่เพียงความรักอันบริสุทธิ์ แต่รวมถึงความหลงใหล กามารมณ์ และแรงปรารถนา

เอาแต่ใจและเจ้าอารมณ์ – เนื่องจากเธอเป็นตัวแทนของอารมณ์แห่งความรัก อโฟรไดท์มักมีความต้องการสูง และมักจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ

อ่อนไหวแต่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม – แม้ว่าเธอจะงดงามและน่าหลงใหล แต่เธอก็มีความฉลาดและสามารถใช้เสน่ห์ของเธอเป็นอาวุธในการควบคุมสถานการณ์

หึงหวงและเจ้าคิดเจ้าแค้น – ในบางตำนาน อโฟรไดท์มีความริษยาผู้หญิงที่งามกว่าหรือได้รับความสนใจมากกว่า เช่นในตำนานของ Psyche และ Helen of Troy

บรรยายรูปลักษณ์ของอโฟรไดท์:

"เธอเป็นดั่งบทกวีที่ถูกหลอมรวมเป็นสตรี—ผิวของเธอเปล่งประกายราวกับน้ำผึ้งต้องแสงอาทิตย์ เรือนผมเป็นระลอกคลื่นแห่งทองคำ สยายลงมาดุจน้ำตกที่ต้องแสงจันทร์ ดวงตาของเธอจับต้องวิญญาณของผู้ที่สบมอง—สีของมันเป็นดังมหาสมุทรยามรุ่งอรุณ ทั้งลึกลับและเร่าร้อน"

"ริมฝีปากของเธอแดงราวกับกลีบกุหลาบแรกแย้ม โค้งรับกับรอยยิ้มที่สามารถทำให้เหล่าทวยเทพยอมจำนน ปลายนิ้วของเธอลูบไล้ไปตามผิวของโลกด้วยความอ่อนโยน แต่เพียงสัมผัสเดียวก็สามารถปลุกเปลวไฟแห่งกามารมณ์ให้ลุกโชนขึ้นในหัวใจของมนุษย์และเทพองค์อื่นๆ"

"เมื่อเธอเดินผ่าน สายลมก็โอนอ่อนดั่งกำลังร่ำร้องหาเธอ แม้แต่ดอกไม้ก็เบ่งบานเมื่อปลายเท้าเธอสัมผัสพื้นดิน เทพีอโฟรไดท์—เธอไม่ใช่เพียงความงาม แต่เป็นอำนาจแห่งความรัก เป็นไฟปรารถนาอันไม่มีวันมอดดับ"

ประวัติโดยละเอียดของอโฟรไดท์ในตำนานกรีก

     อโฟรไดท์เป็นหนึ่งในเทพแห่งโอลิมปัส เธอมีสองตำนานหลักเกี่ยวกับการกำเนิด:

1. กำเนิดจากฟองทะเล – ตำนานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ เธอเกิดขึ้นจากฟองทะเล (Aphros) เมื่อไททันโครนัสตัดอวัยวะเพศของเทพยูเรนัส (Uranus) และโยนมันลงสู่มหาสมุทร เลือดของยูเรนัสกระจายตัวและสร้างฟองน้ำขึ้นมา ก่อนที่อโฟรไดท์จะถือกำเนิดขึ้นจากเปลือกหอยและลอยไปยังเกาะไซปรัส (Cyprus)

2. ธิดาของซุสและไดโอนี (Zeus & Dione) – อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า เธอเป็นลูกสาวของเทพซุสกับไททันนีด ไดโอนี (Dione)

     อโฟรไดท์ได้รับการยกย่องในหลายพื้นที่ของกรีซ โดยเฉพาะในไซปรัส ซึ่งถือเป็นบ้านเกิดของเธอ

รายชื่อคู่รักของเทพีอโฟรไดท์
     อโฟรไดท์มีคู่รักมากมาย ทั้งเทพและมนุษย์ โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับความรักอันร้อนแรงและโศกนาฏกรรมอันงดงาม

1. เฮฟีสทัส (Hephaestus) - เทพแห่งช่างตีเหล็ก: อโฟรไดท์ถูกบังคับให้แต่งงานกับเทพเฮฟีสทัสตามคำสั่งของซุส เฮฟีสทัสรักเธอมาก แต่เธอไม่ได้รักเขา และมีชู้กับชายอื่น

2. แอเรส (Ares) - เทพแห่งสงคราม: หนึ่งในคู่รักที่มีชื่อเสียงที่สุดของเธอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นสัญลักษณ์ของความหลงใหลระหว่างความรักและสงคราม พวกเขามีบุตรร่วมกันหลายองค์ เช่น Eros (กามเทพ), Harmonia, Phobos (ความกลัว) และ Deimos (ความหวาดกลัว)

3. แอดอนิส (Adonis) - มนุษย์หนุ่มรูปงาม: แอดอนิสเป็นชายหนุ่มที่อโฟรไดท์ลุ่มหลงอย่างสุดหัวใจ เธอรับเขามาเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็ก และเมื่อโตขึ้น เธอก็ตกหลุมรักเขาจากการบังเอิงระหว่างเล่นกับอีรอสแล้วเธอพลั้งไปถูกศรทองของเขาสะกิดและแอดโดนิสก็บังเอิญเดินผ่านมา แต่ในที่สุด เขาถูกหมูป่าที่เทพแอเรสที่หึงหวงแปลงตัวมาทำร้ายจนเสียชีวิต อโฟรไดท์โศกเศร้าและเปลี่ยนเลือดของเขาให้กลายเป็นดอกไม้ anemone

4. แองไคซีส (Anchises) - มนุษย์และเจ้าชายโทรจัน: ซุสต้องการลงโทษอโฟรไดท์ที่ทำให้เทพองค์อื่นตกหลุมรักมนุษย์ จึงบันดาลให้เธอหลงรักแองไคซีส
เธอมีบุตรกับเขาชื่อว่า Aeneas ซึ่งเป็นวีรบุรุษแห่งกรุงทรอย

5. เฮอร์มีส (Hermes) - เทพแห่งการสื่อสาร
เฮอร์มีสหลงรักอโฟรไดท์ และจากความสัมพันธ์นี้ พวกเขามีบุตรชื่อ Hermaphroditus ซึ่งมีลักษณะทั้งชายและหญิง

ภาพโดยรวม:
     อโฟรไดท์เป็นเทพีที่เปี่ยมเสน่ห์ มีบุคลิกที่ลึกซึ้งและซับซ้อน ทั้งงดงาม อ่อนไหว เร่าร้อน แต่ก็มาพร้อมกับความเจ้าเล่ห์และอารมณ์ที่รุนแรง เธอมีคู่รักมากมาย ซึ่งแต่ละความสัมพันธ์ล้วนมีเรื่องราวที่น่าสนใจ และสามารถตีความได้หลากหลายมิติ

     เธอไม่ใช่แค่เทพีแห่งความรักและความงาม แต่เป็นตัวแทนของแรงปรารถนา ความเย้ายวน และอำนาจแห่งเสน่ห์ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย

เทพนิยาย Romance Fantasy Erotic



แก้ไ

เพลิงปรารถนา ณ ป่าต้องห้าม | เซไทร์ (Satyr)

  • โดย: B.Zab
  • ©️ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ตอนที่ 1: เงาแห่งนักรบบนเส้นทางเปลี่ยว


แสงแดดยามสายลอดผ่านพุ่มไม้หนาทึบเป็นลำเส้น ทาบลงบนเรือนร่างของหญิงสาวผู้แปลกหน้าในผืนป่า — อโฟรไดท์ เทพีแห่งความรักที่เบื่อหน่ายกับความหรูหราแห้งแล้งของโอลิมปัส เป็นหญิงงามเกินกล่าวขานได้ด้วยบทกวีในชุดผ้าพลิ้วบางสีงาช้างที่แนบเรือนกายโค้งเว้าอย่างไม่สามารถปิดบังความงดงามอร่ามเรืองรองและยวนเย้า ผืนป่าในลมหายใจของเธอ เต็มไปด้วยกลิ่นผืนดินที่เปียกชุ่มชื้น กลิ่มมอสที่ก่ายเกาะบนแก่งหินและโคนไม้ใหญ่ที่กลางกิ่งครื้มให้ร่มเงาทุกเมื่อเชื่อวันนานนับพันปี อีกทั้งใบไม้ที่หล่นร่วงทับถมจนเป็นพรมหนานุ่มซึ่งซ่อนเสียงกระซิบของธรรมชาติไว้ในทุกในย่างก้าวของเธอ
ใต้ฝ่าเท้าเปลือยเปล่า ดินนุ่มชื้นรับสัมผัสอย่างอ่อนโยน เธอเดินผ่านม่านพฤกษาที่พลิ้วไหวตามแรงลม เถาวัลย์สีเขียวสดคล้องกันดุจม่านบังตาที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ร่างอ้อนบางเคลื่อนไปท่ามกลางเงาและแสงอย่างมีเสน่ห์ ราวกับว่าเธอคือส่วนหนึ่งของป่า… หรือไม่ก็เทพีที่ถูกธรรมชาติรอรับการกลับมา
ขณะเดินลึกเข้าไป เสียงนกเงียบงันลงอย่างเฉียบพลัน ทิ้งไว้เพียงเสียงลมหายใจของเธอกับเสียงฝีเท้าที่หยุดลงฉับพลัน
เธอหยุดชะงัก — ปลายเท้าแตะขอบแอ่งน้ำเล็กใต้ร่มไม้ เงาสะท้อนของตัวเองสั่นไหวในผิวน้ำ ทว่าภายในความเงียบนั้น… มีบางสิ่งเคลื่อนไหว ไม่ใช่ลมหรือสัตว์ตัวเล็ก มันหนักแน่นกว่า — เธอสัมผัสได้ถึงแรงสายตาที่จับจ้อง ร้อนวูบและแหลมคมราวหอกของนักล่า
โสตสัมผัสของเธอได้รับรู้ถึงเสียง… ฝีเท้าที่สี่ที่ทาบทับพื้นดินที่ชื้นและอ่อนตัว เสียงกรอบแกรบของกิ่งไม้ที่ถูกย่ำเหยียบด้วยน้ำหนักที่ไม่ธรรมดา และลมหายใจต่ำลึก — ไม่ใช่สัตว์ป่า ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา… แต่เป็นบางสิ่งที่ทั้งดิบเถื่อนและควบคุมได้ยากในเวลาเดียวกัน
อโฟรไดท์ก้าวถอยหลังเล็กน้อย ขณะวางมือลงบนที่สะโพก เธอไม่ได้หวาดกลัว เทพธิดาคนโปรดของซุสไม่จำเป็นต้องหวั่นกลัวสิ่งใด หากแต่เธอรู้ดีว่าเธอกำลังเตรียมต้อนรับกับการเผชิญหน้า ริมฝีปากฉ่ำหวานเผยอเป็นยิ้มบางๆ ยวนเย้า เหยาะเย้ยและซุกซน ดวงตาสีฟ้าอำพันจับจ้องไปยังพุ่มไม้ที่ไหวเพียงเล็กน้อย... แต่ชัดเจนเพียงพอจะบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของใคร..อะไรสักอย่าง
และจากเงามืดของป่า — เขาผู้นั้นก็ก้าวออกมา
เซนเทอร์ — ครึ่งมนุษย์ครึ่งอาชา เรือนกายท่อนบนสูงใหญ่ กล้ามเนื้อแกร่งแน่นราวหินที่สลักจากเทพเจ้าช่างศิลป์ผู้มากฝีมือ ผิวสีแทนเข้มแต้มเงาแดด ดวงตาสีมรกตเข้มดุจแม่น้ำจับจ้องอย่างไม่ปิดบัง ราวกับจะลอกอาภรณ์โปร่งบางของเธอออกด้วยจ้องมองด้วยแววตาที่ร้อนแรง ท่อนล่างของเขาเป็นม้าสูงใหญ่สีดำสนิทราวกับนิล แข็งแกร่งในทุกจังหวะการเคลื่อนไหว แผงขนมันเงางามสะท้อนแสงแดดที่เล็ดลอดผ่านป่าลงมาได้อย่างลางเลือนเสมือนเงาหมอกสีเขียว
ในมือของเขาคือคันธนูยาวข้างหนึ่ง ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งพักวางอยู่บนสะโพกด้วยท่าทางอาจหาญของนักล่าผู้ชำนาญแลครอบครองผืนไพรกว้างใหญ่แห่งนี้ทั้งผืน
อโฟรไดท์สบตาเขา — ไม่ถอยหนี ไม่สะท้าน ไม่หวั่นไหว สายตาเธอสบกลับด้วยความอยากรู้อยากเห็นเจือยั่วเย้าและยั่วยวน ราวกับยินดีต้อนรับกันการท้าทายที่ยืนทะมึงข่มขู่อยู่ตรงหน้า
“บอกได้ไหม เจ้าคือสิ่งมีชีวิตอะไรกันแน่?” เสียงของเขาหนัก ลึก แผ่วราวฟ้าครึ้ม สงสัย แต่มีบางสิ่งที่ร้อนแรงซ่อนอยู่ในทุกพยางค์
“และเจ้าก็ไม่ใช่เพียงนักรบธรรมดา ถ้าให้ข้าเดา” อโฟรไดท์ตอบกลับ เสียงของเธอนุ่ม อวลไปด้วยเสน่ห์ในทุกถ้อยคำ ราวน้ำผึ้งหยดบนปลายลิ้น
เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกก้าว กลิ่นเหงื่อ กลิ่นหนังสัตว์ และกลิ่นดินแห้งผสมกันเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของนักรบป่าเถื่อน กลิ่นนั้นกระแทกประสาทสัมผัสของอโฟรไดท์อย่างไม่รู้ตัว ปลุกเร้าในจุดลึกที่สุดของความต้องการ
เขามองเธอตั้งแต่ปลายผมสีทองที่ไหลลงมาถึงเอวขาวผ่องที่คอดกิ่ว เรื่อยลงมาจนถึงเรียวขาเปลือยเปล่าที่แช่อยู่ในน้ำตื้นครึ่งหนึ่ง “เจ้ากล้าหาญที่บังอาจมาเดินเล่นในแดนของข้าอย่างไร้การป้องกัน...” เขาแสยะยิ้มก่อนเอ่ยด้วยหางเสียงดุดัน
เธอยิ้มตอบ พร้อมก้าวเข้าไปอีกก้าวจนระยะห่างระหว่างเธอกับเขาแทบถูกทำลาย “เพราะข้าเชื่อว่าที่นี่น่าตื่นเต้นกว่าบนท้องฟ้าที่น่าเบื่อหน่าย”
เขาเงียบ — สายตายังคงไล่ไปตามผิวขาวเนียนที่เปล่งประกายในเงาไม้ เธอดูไม่ใช่สิ่งที่เขาคุ้นเคย ไม่ใช่หญิงใดที่เขาเคยพบเจอ และความรู้สึกนั้นก็กำลังไหลผ่านเขาอย่างช้าๆ... ราวกับเปลวไฟที่กำลังคลี่คลายชั้นน้ำแข็งของความเย็นชาในหัวใจ
“ข้าคือ ไคซาร์ เซนเทอร์บุตรคนที่สองแห่งอิกซอน” เขากล่าวในที่สุด เสียงแผ่วติดแน่นในอก
“ข้าคือ…อโฟรไดท์” เธอกระซิบตอบ ริมฝีปากใกล้หูเขาเพียงคืบ กลิ่นกายหอมจางราวดอกไม้ยามค่ำคืนลอยเข้าใกล้ — และในเสี้ยววินาทีนั้น โลกก็เงียบลง
นกเงียบ เสียงใบไม้หยุดไหว ราวกับทั้งผืนป่าหยุดเพื่อเฝ้าดูการพบกันของสองแรงดึงดูดที่ไม่เคยพบกันมาก่อน
เขาจ้องลึกลงในตาเธอ — ไม่ใช่เพียงแค่ความงาม หากแต่เป็นพลังบางอย่างที่เขาไม่อาจปฏิเสธ
“อโฟรไดท์ เทพีแห่งความงาม ความรัก ผู้เอาแต่ใจแห่งโอลิมปัส” เขากระซิบเสียงพร่า
เธอหัวเราะเบา เสียงหวานพริ้วราวสายลมที่ปลุกผืนหญ้าให้โอนเอน “ใช่ นั่นแหละข้า … แล้วเจ้าล่ะ จะกลัวข้าหรือ เซนเทอร์ผู้ถือธนู?”
เขาไม่ตอบ เพียงยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวเดินนำไปในเส้นทางแคบๆ ระหว่างแนวไม้หนาทึบ “ตามมาเถอะ เทพธิดา ถ้าเจ้ากล้าจริง”
อโฟรไดท์สบตาเขาอีกครั้ง ก่อนก้าวตามไป ใบไม้แห้งใต้ฝ่าเท้าร้องกระซิบอีกครั้ง อย่างจะรับรู้ถึงความตื่นเต้นที่แผ่ซ่านจนป่าทั้งป่ายังแอบนิ่งฟัง
และ ณ จุดเริ่มต้นของเส้นทางเปลี่ยวสายนี้ — ความปรารถนาที่ถูกจุดประกาย… กำลังเตรียมพร้อมที่จะลุกไหม้
— จบบทที่ 1 —

ตอนที่ 2: เปลวเพลิงในหัวใจนักล่า


แสงแดดยามสายทอดผ่านยอดไม้สูงใหญ่เป็นลำเส้นสีทองอ่อน ส่องต้องละอองฝุ่นละมุนที่ลอยเคว้งอยู่ในอากาศราวม่านเวทมนตร์ ป่าลึกทอดยาวเบื้องหน้า เส้นทางเปลี่ยวซึ่งไร้ร่องรอยมนุษย์ใดเหยียบย่าง ทว่าเสียงฝีเท้าหนักแน่นของเซนเทอร์กลับก้องในจังหวะสม่ำเสมอไปตามผืนดินชื้น กลิ่นของใบไม้หมักหมม มอสที่เกาะตามโขดหิน และเห็ดป่าที่แอบซ่อนอยู่ในเงามืด ผสานกับกลิ่นไอแดดที่อบอุ่น ราวกับผืนป่าทั้งหมดกำลังหายใจช้าๆ เคลื่อนไหวอย่างเงียบงัน
อโฟรไดท์เดินเคียงข้างเขา เปลือยเท้าแนบกับดินอ่อนนุ่ม ละอองน้ำยังพราวบนเรียวขา ผมสีทองสลวยของเธอสะท้อนแสงแดดเป็นประกายราวทองคำขาวระยิบในพงไพร ร่างบางแนบแน่นไปด้วยผืนผ้าบางเบาเพียงชั้นเดียวที่ชื้นจากการอาบน้ำเมื่อครู่ กระซิบแนบผิวในทุกจังหวะที่เธอก้าว เสียดสีบางเบาระหว่างเนื้อผ้ากับเรือนร่าง จนแม้แต่ลมหายใจของตนเองเธอยังได้ยินดังก้อง
เสียงปีกนกไหววูบเหนือยอดไม้ ทำให้อโฟรไดท์เงยหน้าขึ้น เงาไม้พาดผ่านใบหน้าอันงดงามของเธอเป็นจังหวะ สีฟ้าอำพันในดวงตาแวววาวด้วยประกายแห่งความตื่นเต้น และ—บางสิ่งที่ลึกล้ำกว่านั้น
“เจ้ารู้ทุกเส้นทางในป่าแห่งนี้” เธอเอ่ยเบาๆ
เซนเทอร์เหลือบมองเธอด้วยหางตา คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยอย่างใคร่ครวญ “ข้าไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเส้นทาง…เพราะข้า รู้สึก มันได้”
เสียงของเขาลึกและต่ำ ลมหายใจร้อนระอุแทรกผ่านจมูกสัตว์ที่งามสง่า ท่อนล่างของเขาขยับอย่างสง่างาม แม้จะไร้อาภรณ์แต่มีกลิ่นไอแห่งอำนาจและความแข็งแกร่งที่ห่อหุ้มอยู่ อโฟรไดท์จ้องมองการเคลื่อนไหวของเขาด้วยดวงตาที่เริ่มแฝงด้วยไฟลึกลับ
พวกเขาหยุดพักริมธารเล็กๆ ที่ไหลเอื่อย น้ำใสไหลรินผ่านหินก้อนกลม กลิ่นความเย็นของน้ำสะอาดโชยมาแตะปลายจมูก อโฟรไดท์นั่งลงบนหินเรียบ ชูเท้าเปล่าแช่ลงไปในน้ำเย็นจัด พร้อมสูดกลิ่นหอมจากกลีบดอกไม้ป่าที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ — ดอกไม้เล็กสีม่วงอมชมพู กลิ่นอ่อนจางคล้ายดอกไวโอเลตกับน้ำผึ้ง
เซนเทอร์ยืนมองเธอเงียบๆ ก่อนจะโน้มตัวลงนั่งตรงข้าม ท่อนแขนเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวอย่างทรงพลังขณะหยิบผลไม้ป่าลูกเล็กส่งให้เธอ “ลองสิ มันหวาน”
อโฟรไดท์จ้องผลไม้ในมือเขา มือนิ้วยาวบางแตะลงที่นิ้วเขาเพียงชั่วครู่ ก่อนจะหยิบมันขึ้นแตะริมฝีปาก แทะเบาๆ น้ำหวานซึมผ่านลิ้น รสชาติคล้ายลูกฟิกผสมน้ำตาลไหม้ เธอกลืนน้ำหวานลงคอช้าๆ ดวงตาจ้องมองเขาไม่ละไป
“เจ้าอยู่คนเดียวในป่าเช่นนี้ ไม่เหงาหรือ?”
เขาไม่ตอบในทันที เพียงใช้กิ่งไม้เขี่ยใบไม้แห้งข้างตัว ราวกับคำถามนั้นกระทบลึกถึงบางส่วนในใจที่เขาไม่เคยเปิดเผย
“ข้าเคยคิดว่า ความเงียบคือมิตรเดียวที่ข้าต้องการ” เขาว่า เสียงแผ่วผ่านลมหายใจ “แต่บางครั้ง...แม้แต่เงียบก็โหวงเหวงเกินไป”
อโฟรไดท์โน้มตัวเข้าหา กลิ่นกายของเธอหอมจางแต่น่าหลงใหล ความร้อนจากผิวกายเธอแผ่ออกมาจนสัมผัสได้แม้ยังไม่ได้แตะต้องจริงจัง เธอเอียงคอเล็กน้อย เส้นผมทองปลิวแนบแก้มจากแรงลมอ่อน
“แล้วตอนนี้ล่ะ...เจ้ายังรู้สึกเหงาอยู่หรือไม่?”
เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มดุดันมองตรงเข้าไปในตาเธอ ราวกับจะเจาะทะลุไปถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน
“ไม่อีกแล้ว...”
มือของเขายื่นออกมาช้าๆ สัมผัสที่ปลายนิ้วเธอ เพียงแผ่วเบาแต่ทรงพลัง ความร้อนแทรกเข้าผิวผ่านปลายนิ้วจนหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
พวกเขานั่งเงียบกันอยู่ชั่วขณะ เสียงน้ำไหลเอื่อยแทรกระหว่างบทสนทนาที่ไม่มีคำพูด ลมหายใจของทั้งสองเริ่มสอดประสานกันในจังหวะใกล้เคียง
เขาขยับตัวเข้าใกล้ขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย เธอก็ไม่ถอย หน้าผากของทั้งสองแทบจะแตะกัน อโฟรไดท์หลับตาเพียงชั่วครู่เมื่อสัมผัสถึงไอร้อนจากลมหายใจเขาที่แตะลงบนแก้ม
ลมหายใจของเขาหนักและลึกในอก เหมือนสัตว์ป่าที่ใกล้ระเบิดพลังที่กักเก็บมานานเกินควร มือของเธอเลื่อนขึ้นแตะแผ่นอกของเขา ผิวกายอุ่นจัดและเต็มไปด้วยรอยแผลที่เล่าถึงเรื่องราวมากมาย ปลายนิ้วเธอลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อแข็งแรงราวหินแกะสลัก เส้นเลือดใต้ผิวเต้นเป็นจังหวะชัดเจน
เขาโน้มตัวเข้ามาอีกนิด เสียงลมหายใจของเขาแทบจะแทรกเข้าในริมฝีปากเธอ กลิ่นของเขา—กลิ่นหนังสัตว์ เหงื่อ สายลม และดิน—โอบล้อมความรู้สึกทุกอย่างของเธอไว้
ราวกับเวลาหยุดอยู่ตรงนั้น
มือของเขาแตะที่เอวเธอ แรงพอดีระหว่างการยับยั้งและความต้องการ เธอเงยหน้าขึ้นอีกนิด แสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านซอกไม้ส่องลงบนเปลือกตาเธอ เธอกระซิบ...เสียงอ่อนจนแทบแผ่วในลำคอ
“อย่าหยุดนะ...”
เขาโน้มลงมา สัมผัสริมฝีปากเธออย่างแผ่วเบาแต่แนบแน่น...ไม่ใช่เพียงจูบ แต่เป็นจังหวะที่ความร้อนแรงทั้งหมดเริ่มปะทุ ช้าๆ แน่น และแนบลึก
แสงในป่าลดลงช้าๆ เหมือนโลกทั้งใบลมหายใจติดอยู่ระหว่างจูบนั้น เสียงธารหยุดนิ่ง เสียงนกเงียบงัน ลมหยุดพัด
...และเปลวเพลิงที่รออยู่ในหัวใจทั้งสองก็ค่อยๆ เริ่มลุกไหม้
—จบบทที่ 2—

ตอนที่ 3: ป่าสวรรค์แห่งความปรารถนา 


เสียงจูบแรกจางหายไปในอากาศเย็นของป่ายามค่ำคืน แต่ไออุ่นของมันยังคงคลุ้งอยู่รอบร่างทั้งสองราวกับเปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับ แสงจันทร์เบื้องบนแทรกผ่านม่านใบไม้ ละมุนละไมจนเงาของพวกเขาทาบทับกันแนบแน่นอยู่บนพื้นหญ้านุ่ม สะท้อนซ้ำความใกล้ชิดที่ค่อยๆ ละลายช่องว่างระหว่างเทพีจากโอลิมปัสและนักรบแห่งผืนป่า
เซนเทอร์ยกมือขึ้นช้าๆ ไล้ปลายนิ้วตามแนวกรอบหน้าของอโฟรไดท์ สัมผัสอ่อนโยนอย่างน่าประหลาดจากมือของนักรบผู้ผ่านศึก กล้ามเนื้อหนั่นแน่นสั่นเล็กน้อยใต้สัมผัสของเธอที่วางแนบอยู่บนหน้าอกเขา ลมหายใจของทั้งสองประสานกันในจังหวะลึกและร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“กลิ่นกายของเจ้าคือกับดัก...” เขากระซิบชิดริมฝีปากเธอ เสียงพร่าราวเสียงคำรามจากสัตว์ป่าที่เกือบขาดการควบคุม “ข้าติดกับมันไปแล้ว…”
อโฟรไดท์หัวเราะเบาๆ เสียงนั้นแผ่วพริ้วราวเกสรดอกไม้ปลิวล้อสายลม เส้นผมทองปลิวไสวแนบไหล่เมื่อเธอเอนตัวเข้าหา จูบซ้ำลงบนมุมปากเขา — แผ่วเบา แต่เร่าร้อนพอจะทำให้โลกทั้งผืนหยุดหมุนอีกครั้ง
เขาโอบเอวเธอไว้ด้วยแขนแข็งแรง อบอุ่นและแนบแน่นจนเธอสัมผัสได้ถึงแรงเต้นของชีพจรเขาผ่านแผ่นอกเปลือยเปล่าที่แนบชิด ปลายนิ้วของเขาไล้แผ่วจากแนวเอวขึ้นมาตามแนวแผ่นหลังของเธอ ปลุกเร้าความร้อนที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ผิวให้ไหลซ่านไปทั่วทั้งร่าง อโฟรไดท์หลับตาลง หายใจช้าแต่ลึก จมอยู่ในสัมผัสที่ค่อยๆ เผยตัวตนของนักรบผู้เงียบขรึมออกมาในทีละเลเยอร์
เธอคล้องแขนรอบลำคอเขา ริมฝีปากเผยอเพียงเล็กน้อย ขณะที่เขาก้มลงจูบเธออีกครั้ง คราวนี้ลึกกว่า ร้อนแรงกว่า เด็ดขาดกว่าครั้งก่อน เสียงหอบหายใจดังแทรกกลางความเงียบงันของป่า โอบล้อมด้วยเสียงใบไม้เสียดสี เสียงแมลงยามค่ำ และเสียงลมหายใจที่แผ่วสลับหนักของทั้งสองร่าง
มือของเขาเลื่อนไปตามแนวสะโพกเธอ ไล้ปลายนิ้วช้าๆ ราวกำลังวาดรูปร่างบนผืนผ้าใบที่มีชีวิต กลิ่นกายของเธอ — หอมเย็นของดอกไม้ใต้แสงจันทร์ ผสมกับเหงื่อบางเบาจากการเดินทาง — ยิ่งเร่งความหิวกระหายในดวงตาเขาให้คุกรุ่น
ร่างของเธอค่อยๆ โน้มเอนลงสู่พื้นหญ้านุ่มเย็น โอบล้อมด้วยกลีบดอกไม้ร่วงโรยและแสงจันทร์ที่โรยแสงลงเหมือนละอองเงิน ขณะที่เขาตามลงมาคร่อมร่างนั้นไว้ในวงแขน อบอุ่น หนักแน่น และเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนา
จูบของพวกเขายาวนาน — ไม่รีบร้อน หากแต่แน่นแนบ สื่อสารมากกว่าคำพูดใดๆ ปลายนิ้วของเขาไล้ผ่านไหล่และต้นแขนของเธออย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะประสานนิ้วกับมือเธอแน่นแนบ ราวกับจะยืนยันว่าไม่มีสิ่งใดในห้วงเวลานั้นสำคัญไปกว่าการแนบชิดกันในค่ำคืนนี้
เสียงหายใจเริ่มสั่นพร่า เสียงครางเบาๆ หลุดออกจากริมฝีปากอโฟรไดท์โดยไม่ตั้งใจ ขณะที่มือเขาไล้ไปตามแนวลำตัว จังหวะที่กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังเธอกระตุกเบาๆ ตอบสนองอย่างสัตย์จริงต่อสัมผัสนั้น บรรยากาศรอบข้างหนาแน่นไปด้วยไอร้อน แม้แสงจันทร์ยังเย็นเฉียบ
เวลาค่อยๆ ละลายลงช้าๆ ราวกับน้ำผึ้งไหลผ่านปลายนิ้ว เขากระซิบชื่อเธอข้างหู เธอตอบกลับด้วยเสียงเบา ราวกับบทเพลงที่ไม่มีถ้อยคำ ขณะที่ร่างกายทั้งสองหลอมรวมกันทีละสัมผัส ทีละลมหายใจ จนแยกไม่ออกว่าเสียงครางใดเป็นของใคร
เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง — ไม่ใช่ด้วยความเหนื่อยล้า แต่ด้วยความเต็มเปี่ยม — พวกเขานอนเคียงกัน ใต้ผืนฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว เสียงลมหวนกลับมาพัดผ่านอีกครั้ง เบาๆ เหมือนมือที่โอบกอด
อโฟรไดท์เอนศีรษะลงบนแผ่นอกเขา ฟังเสียงหัวใจของนักรบเงียบๆ ราวกับบทกลอนจากธรรมชาติ
“เจ้าทำให้ข้ารู้สึก…เป็นมนุษย์” เธอกระซิบ ริมฝีปากเฉียดผิวเขา
เขายกมือขึ้นลูบเส้นผมทองของเธออย่างอ่อนโยน “และเจ้าทำให้ข้ารู้ว่าหัวใจข้ายังมีชีวิต”
ดวงตาของเธอหลับลงอย่างสงบ ริมฝีปากยังคงมีรอยยิ้มบางๆ ขณะสายลมพัดผ่านปลายผม และใบไม้เหนือศีรษะก็พลิ้วเบาๆ คล้ายรับรู้ถึงช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์
แสงจันทร์สาดแสงลงบนแผ่นหลังของเซนเทอร์ขณะที่เขานอนเอนมองท้องฟ้า ความอ่อนโยนที่เพิ่งได้ลิ้มรสยังไม่จางไปจากริมฝีปาก
อโฟรไดท์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง มองเขาที่นอนนิ่งอยู่ข้างกาย แล้วกระซิบเบาๆ ราวบทสรุปแห่งการเดินทางทั้งหมด
“ข้าไม่รู้จะกลับไปบนโอลิมปัสด้วยหัวใจแบบนี้ได้อย่างไร…แต่ข้าจะไม่มีวันลืม”
เขาไม่ตอบ เพียงเอื้อมมือมากุมมือเธอไว้แน่น และในแววตาที่สบกันนั้น — แม้ไม่มีคำพูด แต่ก็มีคำมั่นสัญญาที่ลึกเกินกว่าจะต้องพูดออกมา

(นิยายจะมีตอนพิเศษ ที่คุณจะหาอ่านได้ในแบบฉบับ EBook ที่เดียว!)

— จบบริบูรณ์ —

🔹และหากคุณเป็น อโฟรไดท์ คุณอยากให้เธอได้พบกับอมนุษย์ตนไหนในป่าโบราณแห่งนี้? 

👉 กดเลือกอมนุษย์ตนต่อไป ที่นี่ 👈


แนะนำนิยาย

Prince Vassago | เพลิงปรารถนา ณ ป่าต้องห้าม

เพลิงปรารถนา ณ ป่าต้องห้าม อโฟร์ไดท x 72 ปีศาจแห่งโซโลมอน ตำนานรักบทใหม่ของ: อโฟรไดท์และคู่รักของเธอ ลักษณะนิสัยของ เทพี: อโฟรไดท์ (Aphrodit...

นิยาย HIT